วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การเจริญสติปัฏฐาน เป็นการรักษาทั้งตนเองและผู้อื่น



เจริญสติปัฏฐาน เป็นการรักษาทั้งตนเองและผู้อื่น




เจริญสติปัฏฐาน เป็นการรักษาทั้งตนเองและผู้อื่น

เจริญสติปัฏฐาน เป็นการรักษาทั้งตนเองและผู้อื่น



ภิกษุทั้งหลาย. ! เธอพึงเจริญสติปัฏฐานด้วยคิดว่า "เราจักรักษาซึ่งตน";

เธอพึงเจริญสติปัฏฐานด้วยคิดว่า "เราจักรักษาซึ่งผู้อื่น".

ภิกษุทั้งหลาย. ! เมื่อรักษาตน ก็คือรักษาผู้อื่น : เมื่อรักษาผู้อื่นก็คือรักษาตน .

ภิกษุทั้งหลาย. ! เมื่อรักษาตนก็คือรักษาผู้อื่น นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
ข้อนี้หมายความว่า
รักษาตนด้วยการเสพธรรมะ
ด้วยการเจริญธรรมะ
ด้วยการทำให้มากซึ่งธรรมะ.

นี้แหละคือ เมื่อรักษาตนอยู่ จะมีผลเป็นการรักษาผู้อื่น.

ภิกษุทั้งหลาย. ! เมื่อรักษาผู้อื่นก็คือรักษาตน นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
ข้อนี้หมายความว่า
รักษาผู้อื่นด้วยการอดทน
ด้วยการไม่เบียดเบียน
ด้วยเมตตาจิต
ด้วยความรักใคร่เอ็นดู.

นี้แหละคือ เมื่อรักษาผู้อื่นอยู่ จะมีผลเป็นการรักษาตนด้วย.

ภิกษุทั้งหลาย. ! เมื่อคิดว่าเราจักรักษาตน ก็จงเจริญสติปัฏฐานเถิด,
เมื่อคิดว่าเราจักรักษาผู้อื่น ก็จงเจริญสติปัฏฐานเถิด;
เพราะว่าเมื่อเจริญสติปัฏฐานเพื่อรักษาตน ก็เป็นการรักษาผู้อื่น :
 เมื่อเจริญสติปัฏฐานเพื่อรักษาผู้อื่นก็เป็นการรักษาตนด้วย;
อย่างนี้แล.
- มหาวาร.สํ. ๑๙/๒๒๔ - ๒๒๕/๗๕๘ - ๗๖๒.

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เจริญอานาปานสติ แม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือ

เจริญอานาปานสติ
เจริญอานาปานสติ





 ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ถ้าภิกษุเจริญอานาปานสติแม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือ
ภิกษุนี้เรากล่าวว่า
อยู่ไม่เหินห่างจากฌาน
ทำตามคำสอนของพระศาสดาปฏิบัติตามโอวาท
ไม่ฉันบิณฑบาตของชาวแว่นแคว้นเปล่า
ก็จะป่วยกล่าวไปไยถึงผู้กระทำให้มากซึ่งอานาปานสตินั้นเล่า

 เอก.อํ.๒๐/๕๔-๕๕/๒๒๔